หากคุณมีอาการจามบ่อย จามรัว น้ำตาไหล รู้สึกคันตามตัว และจะมีอาการหนักมากขึ้น หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระตุ้น แน่นอนเลยว่า นี่คือ “อาการของโรคภูมิแพ้” แม้คนที่ออกกำลังกายแข็งแรง ก็สามารถเป็นโรคชนิดนี้ได้ เพราะภูมิแพ้ติดต่อได้ทั้งทางพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ แต่คุณก็สามารถดูแลตัวเอง และสร้างเกราะป้องกันสุขภาพได้ เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้น และเจาะให้ลึกว่า คนแบบไหนที่เสี่ยงเป็นภูมิแพ้มากที่สุด
ใครบ้างที่จะเป็นโรคภูมิแพ้?
จากข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริกา (อ้างอิงจาก : Amercian College of Allerygy, Asthma, and Immunology ) พบว่า 1 ใน 5 ของชาวอเมริกัน หรือประมาณ 50 ล้านคน เป็น “โรคภูมิแพ้” และถูกจัดเป็นโรคลำดับที่ 6 ที่ทำให้มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่า ทุกคนจะสามารถเป็นโรคภูมิแพ้ได้ แต่โรคนี้มักเกิดในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งความซุกของการแพ้อาหาร และผิวหนังในเด็กเพิ่มมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ จากข้อมูล FARE (Food Allergy Research & Education) พบว่า เด็ก 1 คนในเด็กอเมริกัน 13 คน จะมีอาการแพ้อาหารร่วมด้วย จึงไม่แปลกที่จะบอกว่า โรคภูมิแพ้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของใครหลายคน ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่เราสามารถทำให้อาการของโรคเบาและไม่สร้างการรบกวนต่อชีวิตประจำวันได้
สารก่อภูมิแพ้มีกี่ชนิด?
เพราะอาการของโรคภูมิแพ้ สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด และสารก่อภูมิแพ้ ก็มีแตกต่างกันไป เราจึงรวบรวม สารก่อภูมิแพ้ที่เป็นตัวการทำให้เกิดโรคนี้กัน
- ละอองเกสรดอกไม้
- ไรฝุ่น
- ขนสัตว์ และรังแคของสัตว์
- แมลงสาป
- เชื้อรา
- อาหาร เช่น ไข่ ปลา นม ถั่ว ข้าวสาลี ถั่วเหลือง หอย
- เหล็กใน หรือการกัดของแมลงบางชนิด เช่น ตัวต่อ ผึ้ง ยุง มดคันไฟ หมัด แมลงวัน ริ้นดำ
- ยา เช่น ยากลุ่มเพนิซิลิน หรือแอสไพริน
- ลาเทกซ์
- สารเคมีที่ใช้ในบ้าน เช่น ผงซักฟอก
- โลหะ เช่น นิกเกิล โคบอล์ต โครเมียม และสังกะสี

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้
สำหรับปัจจัยเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ ที่จะทำให้แสดงอาการ มีดังนี้
- มีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด ผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างหอบหืด ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้ และอาจแสดงอาการได้หนักกว่าคนทั่วไปที่เป็นโรคภูมิแพ้เช่นเดียวกัน
- มีคนในครอบครัวเป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้ หากคุณมีคนในครอบครัวที่เป็นหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้คุณเป็นตามได้ ทางที่ดีควรรักษาร่างกายให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกายและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
- อายุน้อยกว่า 18 ปี มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง หรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ แต่บางครั้งโรคภูมิแพ้ในเด็กก็สามารถหายได้เอง เมื่อโตขึ้น และสามารถกลับมาเป็นใหม่ในเวลาไม่กี่ปี
อาการแทรกซ้อนของโรคภูมิแพ้
ความน่ากลัวของโรคภูมิแพ้ คือ บางรายที่มีอาการแพ้แบบรุนแรง สามารถเสียชีวิตได้ เป็นอาการที่เรียกว่า แอนาฟิแล็กซิส โดยจะเกิดขึ้นกับโรคภูมิแพ้ที่เกิดจาก อาหาร ยากลุ่มเพนิซิลิน และพิษของแมลง ซึ่งอาการของแอนาฟิแล็กซิส ประกอบไปด้วย
- ความดันต่ำ
- ไม่รู้สึกตัว
- หายใจหอบเหนื่อย
- ผื่นผิวหนัง
- ชีพจรเบาและเร็ว
- คลื่นไส้อาเจียน
- เวียนศีรษะ
- หายใจมีเสียงวี้ดรุนแรง
โรคแทรกซ้อนของภูมิแพ้
นอกจาก อาการที่แทรกซ้อน ยังมีโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับโรคภูมิแพ้ และจะส่งผลให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ยากลำบาก โดยโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ มีดังนี้
- โรคหอบหืด (โรคทางเดินหายใจที่เกิดจากการหายใจอักเสบและตีบแคบ ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจเสียงวี้ด และหายใจลำบาก)
- ผื่นผิวหนังอักเสบ
- โรคติดเชื้อที่หูหรือที่ปอด
- ไซนัสอักเสบ
- ริดสีดวงจมูก
- อาการปวดหัวไมเกรน
- การป้องกันการเกิดอาการแพ้
5 วิธีปฏิบัติทำให้หายจากโรคภูมิแพ้
ใครที่มีอาการโรคภูมิแพ้ และอยากได้วิธีการป้องกัน เรารวบรวม 5 วิธี ลดอาการภูมิแพ้มาฝากกัน
1.หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
หลายคนทราบดีว่า มีสารก่อภูมิแพ้หลายชนิด ที่จะทำให้ร่างกายมีอาการต่าง ๆ ขึ้นมา และหากคุณเข้าใจ และรับรู้ว่า สิ่งใด ที่จะกระตุ้นโรคภูมิแพ้ ก็ควรหลีกเลี่ยง เช่น คนที่แพ้ไรฝุ่น อาจหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องเก่า ๆ หรืออยู่ในที่ที่มีแต่ฝุ่น หากเลี่ยงไม่ได้ควรใส่แมสก์ หรือหาอะไรมาป้องกัน เพื่อไม่ให้สัมผัสกับตัวกระตุ้นโดยตรง
2.หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง
สารระคายเคืองต่อร่างกายมีหลายชนิด เช่น บางคนที่ต้องมีการสัมผัสกับผงซักฟอก ก็มีอาการแพ้ได้ ดังนั้น ต้องหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายด้วย
3.ออกกำลังกาย
เมื่อรู้ตัวว่า เป็นโรคภูมิแพ้ ก็ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันละ 30 นาที จะออกไปวิ่ง , เดินเร็ว หรือฟิตเนส เป็นต้น ก็ส่งผลดี และช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ร่างกาย หากไม่อยากให้อาการของโรคภูมิแพ้แสดงขึ้น การออกกำลังกาย คือ ตัวช่วยในการป้องกันที่ดีที่สุด
4.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายแพ้ และแสดงออกของโรคภูมิแพ้ได้ ดังนั้น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยับยั้งอาการของโรคภูมิแพ้ได้ สำหรับสารอาหารที่ดี ควรทานให้ครบหลัก 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนนั่นเอง
5.นอนหลับพักผ่อน
แน่นอนว่า การพักผ่อนที่เต็มที่ ร่างกายก็จะได้ฟื้นฟู และชาร์จพลังให้พร้อมลุยสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่หากนอนน้อย ไม่ค่อยได้นอน ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ และอาการของโรคภูมิแพ้จะแสดงหนักขึ้น เพราะตัวคุณกำลังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอสุด ๆ ดังนั้น นอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง จะช่วยให้คุณสดชื่น ห่างไกลโรคด้วย

หลายคนทราบถึงลักษณะอาการของโรคภูมิแพ้ และปัจจัยเสี่ยงในการกระตุ้นโรค ทำให้สามารถป้องกัน และระวังตัวเองให้มากขึ้น อีกทั้งดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคชนิดนี้ได้ แต่หากคิดว่าวิธีการออกกำลังกาย หรือดูแลตัวเองอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรมีอาหารเสริม หรือตัวช่วยดี ๆ เราขอแนะนำ “น้ำมันรำข้าว กอมฟลีนา” ที่ใช้ข้าวเกรดพรีเมียม พร้อมช่วยบำรุงร่างกาย เป็นสารอาหารที่คัดจากธรรมชาติแท้ เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ การันตีความมั่นใจด้วยการรองรับจากมาตรฐานสากล